1.ตีโดน แนวกลางไม้ แนวกลางไม้ คือ ตั้งแต่กลางไม้ไปถึงหัวไม้ จุดนี้เป็นเส้นแนวส่งกำลัง ตีโดนแรงแรงไม้ก็ไม่บิด จุดที่ดีที่สุดในการตบคือ กลางไม้ ไปดูไม้ทีมชาติ ตรงนี้ขุ่นที่สุดบางคนตี 2 อาทิตย์ก็เปลี่ยยางแล้ว เพราะฟองนำน่วมยุบลงไปเลย ส่วนกรณีตีท็อปสปิน หรือเปลียนทาง ลูก ให้ตีโดนส่วนที่ 2 ของไม้ (ประมาณ เลข 2 ไปเลข 10) (ด้ามจับเลข 6 หัวไม้เลข 12 2.ตีให้จมยางไปจนถึงเนื้อไม้ คนบางคนตีแค่ผิวหรือเฉี่ยว เฉียว ไม้ได้ใช้แรงจากไม้เลย ถ้าตีให้จมถึงเนื้อไม้ ไม้จะส่งแรงออกมาใส่ลูก จะแรงกว่าเดิม 20-40% ถ้าตีถึงเนื้อไม้เสียงจะดังกว่าตีปรกติให้สังเกตุดู ตอนคนตบแรงแรงตบดู
3.เร่งความเร็วเข้าหาลูก การเร่งความเร็ว40 cm สุดท้ายก่อนโดนลูก จะทำให้เราควบคุมลูกได้ดีขึ้น เพราะถ้าไม้เราเร็วกว่าลูกเราจะกลืนกินความเร็วและความหมุนของลูกที่มีอยู่ในลูกได้ (เร็วกว่าลูกที่มา 25%) วิธีนี้เน้นความเร็วที่ท่อนแขนเป็นหลักไม่เน้นข้อมือ
4.จับไม้ จับไม้ให้ชิดชิด แน่นประมาณ 60-70% แต่ ตอนโดนลูกจับแน่นเพิ่มเป็น80- 90% แล้วพอโดนเสร็จกลับมาจับ 60-70% เท่าเดิม ความรู้สึกที่ใช้ควบคุมทั้งหมดอยู่ที่นิ้วชี้หลังไม้เป็นหลัก นิ้วโป้งให้งอข้อนิ้วข้อสุดท้ายเล็กน้อยไม่เหยียดตรง (อันนี้แชมป์โลกชาวจีน ติงสงสอน) และไม้ควรจับและพอดีกับมือแนบสนิทกับมือให้มากที่สุด (ระดับทีมชาติบางคน เหลาไม้เป็นร่องพอดีนิ้วเลยและใช้แค่ไม้เดียวยางเดิม)
5.ถ่ายนำหนัก ถ่ายนำหนักไปด้านหน้า บริเวณกลางลำตัวหน้าตัว จะแรงกว่ากว่าถ่ายนำหนักจากขาซ้ายไปขาขวา โดยการหันตัวมากมากจนไหล่ซ้ายชี้เข้าหาโตะก่อน ก่อนเหวี่ยงแขนเข้าตีลูก และตอนจบขาทั้งสองข้างขยับไปหน้า (ทั้งด้านซ้ายและขวา) และให้ตัวไม้จบบริเวณกลางลำตัวใต้คางซ้าย (คนที่ตีลูฏแรงที่สุดที่ผมเคยดู ติงสงทีมชาติจีน เล่นรับเพื่อรออัดที่เดียวตาย ตีลูกได้แรงมากจนคนรับแทบไม่ได้ขยับตัว(แชมป์โลก)บางลูกที่ไม่ slow แทบไม่เห็นลูกเลยตอนลงโตะ) ตีแบบนี้
ก่อนตี ขาซ้ายอยู่เลข 9 หลังตีอยู่เลข 10
ก่อนตี ขาขวา อยู่เลข 5 หลังตีไปเลข 1 และลำตัวเคลื่อนไปหน้าด้วย
6.ที่มาของพลัง ต้องเริ่มจากขาที่กางพอดีมั่นคง แล้วหันตัวถ่ายนำหนัก 80-90% มาที่ขาขวา แล้วย่อตัว ถ่ายนำหนักสู่น่อง บิดเอว เหวี่ยงตัว เร่งความเร็วที่ท่อนแขน กำไม้แน่นเข้าปะทะลูก และส่งแรงต่อไปด้านหน้า( ถ้าเป็นลูกเบาต้องปิดหัวลูกโดยการบิดเอวปิดและจบแรงที่ขาซ้าย ลูกจะไม่หลุดออก) ลูกtop ล่างขึ้นบนลูกหนักล่างขึ้นบน ลูกเบาหลังไปหน้าไม้สูงกว่าลูก ลูกโด่งบนลงล่าง ลูกโด่งมากตีระดับไหล่ถึงตา)ย่อตัว คือจุดเริ่มต้นของการบุก และพลัง ยิ่งย่อยิ่งแรงยิ่งหมุน
ขาขวา คือจุดรวมพลัง
เอว คือจุดถ่ายพลังจากล่างสู่บนจากหลังไปหน้า ถ้าไม่ใช้เอวความแรงจะน้อยกว่าใช้เอว
ไหล่ คือความแรง ยิ่งชี้ไหล่ยิ่งแรง (ฉาก+เหวี่ยง)
ศอก กดศอกไว้อย่ายกสูงมากเกินไปลูกจะออกได้ง่าย
ท่อนแขน คือความเร็ว ถ้าเร่งความเร็วเข้าหาลูกและจะตีได้เร็วมากแต่ไม่แรง (เหมาะตีตวัดท่อนแขนในโตะที่ง้างไม่ทัน)
ข้อมือ คือความหมุน (ถ้าจับไม้แน่นขึ้นลูกจะแรง ถ้าใช้ข้อมือบิดตอนโดนลูกจะหมุนและเลี้ยวออกข้างมากหลังตกลงโตะแล้ว)
ขาซ้าย คือจุดจบแรงและชี้จุดลงได้ด้วย (ขาซ้ายถ้าขยับไปหน้านิดหนึ่งและปลายเท้าชี้ไปทางไหนซ้ายหรือขวา จะทำให้ลูกลงง่ายขึ้นทั้งทางซ้ายและขวา ลูกยิ่งห่างตัวยิ่งจบขาซ้ายให้ช้าที่สุดยิ่งดี
7.ตีลูกสูงสุด ลูกจังหวะสูงสุดจะหยุดตัวเองนิดหนึ่ง จะอยู่ในสภาวะไร้แรง (ไม่มีแรงที่จะขึ้น และค้างตัวเองไว้ก่อนที่จะลง) จังหวะนี้เองถ้าเป็นลูกธรรมดาที่ไม่หนักมาก เหมาะที่จะตีแบบรุนแรงที่สุด เพราะมันโด่งสุด โอกาสลงมากสุด) ถ้าลูกจังหวะสูงสุดอยู่ในโตะก็ให้เคลื่อนตัวเข้าไปตี แต่ถ้าจังหวะลูกนั้นสูงสุดอยู่นอกโตะ ก็ให้ยืนรอให้ลูกมาหาแล้วค่อยตี (ยืนห่างโตะ 1 ท่อน แขน) ถ้าลูกมาเร็วมากก็ให้รอตีเหมือนกัน
แต่ถ้าหนักมาก ตีจังหวะไม่เร็วก็ช้าดีกว่าไม่เหมาะตีสูงสุด เพราะลูกหนักจังหวะสูงสุดจะหนักที่สุด แต่จะตีจังหวะสูงสุดก็ได้แต่ต้องปรับหน้าไม้และส่งไปหน้ายาวยาวและใช้ข้อมือช่วยเล็กน้อย ตอนโดนลูก(ฉุดจิกลูกขึ้น)
8.หยุดรอนิดหนึ่ง ก่อนจะตี โดยต้องคาดคะเนจุดที่ลูกจะตกให้ได้ แล้วไปรอ เงื้อไม้ แล้วค่อยตี (ไม้เริ่มออกตอนลูกเด้งขึ้นฝั่งโตะเรา) การไปหยุดรอทำให้เลือกมุมจุดตกลูกที่จะตีไปได้ และมีเวลาเลือกตี(ชนิดของลูกได้มากขึ้น) กว่าวิ่งไปแล้วตีเลย จะตีลูกไปที่จุดไหนให้มองจุดยืนเขา และจะตีลูกแบบไหนไปให้ดูหน้าไม้เขาว่าเป็นแบบไหนเปิดหรือปิด fore หรือ back หรือไม่ชอบลูกไหน หรือจุดอ่อนอยู่ที่ไหน ก็ให้เริ่มบุกไปจุดนั้นก่อน แต่ทุกลูกเมื่อตีเสร็จแล้ว ไม้ต้องอยู่กลางตัวและต้องสูงกว่า net เสมอ เพื่อการบุกครั้งต่อไป
9. ฝึก step carl fenberg stepนี้คิดค้นโดย carl fenberg ชาวสวีเดน step นี้ทำให้บุกได้ดี และต่อเนื่อง แยกให้เราเองอัตโนมัติว่าจะตีbackhand forehand หรือ ฉากตัวตี ลูกมาแบบไหน บุกได้หมด .ให้เสริช์หาใน youtube ดู ฝึก 20 นาทีทุกวันรับรองบุกได้ทุกลูก step นี้ อาจารย์ทัศนะ โสมาบุศย์ บอกมา ฝึกแล้วบุกดีและบุกได้ต่อเนื่องมากขึ้นถ้าฝึกบ่อยบ่อย
10.ให้ใช้ fore มากกว่า back เพราะ forehand ตีได้รุนแรงกว่า วงกว้างกว่า และโค้งเลี้ยวกว่าและรอลูกที่จะหลอกเลือก ได้มากกว่าการตี back handได้ มากกว่า ระดับโลกตีforehand ในการจบเกมส์แทบทั้งนั้น มีไม่กี่คนที่ตี bh จบปิดเกมส์ได้ดี
ส่วน back hand ถ้าจะบุกให้ เน้นชนลูก ยืมแรงลูกที่มา ตีเร็ว เด้งขึ้นตีเลย ส่งไปหน้ายาวยาวและใช้แรงจากข้อมือช่วย และเน้นทิศทางโดยใช้การเกี่ยวหัวไม้ในการบุกแบบเปลี่ยทิศทางเร็วเร็วช่วย
ตีเร็วเน้นบุกใช้ไม้ carbonz ตีเน้นหมุน ครอลโทรล ใช้ไม้ธรรมชาติ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น