วันจันทร์ที่ 9 พฤศจิกายน พ.ศ. 2558

2. การรับลูกเสริฟ RETURN

แน่นอน  ในทุกๆ การเล่นปิงปองจะต้องมีการรับลูกเสริฟ  ซึ่งในระดับแข่งขันแล้วเราจะต้องฝึกการรับลูกเสริฟให้ชำนาญด้วยเช่นกัน เพราะการรับลูกเสริฟนั้น จะต้องพยายามรับโดยไม่ให้ตกเป็นรองต่อฝ่ายเสริฟ  แต่จะต้องทำให้เรากลับเป็นฝ่ายได้เปรียบขึ้นมาให้ได้ด้วย  ซึ่งมีหลักในการฝึกการรับลูกเสริฟที่สำคัญๆ ดังต่อไปนี้

1.  จะต้องอ่านความหมุนของลูกเสริฟที่คู่ต่อสู้เสริฟมาให้ออก
ดังที่ทราบกันมาแล้วว่า หากลูกเสริฟมีความหลากหลายความหมุน ย่อมสร้างความสับสนให้กับฝ่ายรับลูกเสริฟได้  ดังนั้นฝ่ายรับลูกเสริฟจะต้องอ่านลูกเสริฟให้ออกให้ได้  ซึ่งการอ่าน..... ก็ต้องใช้สายตาของเราในการอ่าน  ดังนั้นลูกเสริฟที่ฝ่ายเสริฟเสริฟมาหาเรา  เราจะต้องใช้สายตาดูลูกปิงปองต้องแต่คู่ต่อสู้โยนลูกปิงปองออกจากอุ้งมือของเขา เพราะเขาอาจจะโยนสูงบ้าง , ต่ำบ้าง  จากนั้นจะต้องให้ความสำคัญเป็นพิเศษในขณะที่ลูกปิงปองกระทบหน้าไม้  เพราะจังหวะนี้แหละจะทำให้เราอ่านความหมุนของลูกเสริฟฝ่ายตรงข้ามออกได้
โดยทั่วไป เมื่อหน้าไม้ถูกลูกปิงปองบริเวณต่างๆ จะให้ความหมุนดังต่อไปนี้
-  เมื่อหน้าไม้ถูกใต้ลูกปิงปอง  ลูกเสริฟจะเป็นลูกหนัก หรือ ความหมุนแบบ Back spin เมื่อรับลูกเสริฟ ลูกจะติดเน็ต
-  เมื่อหน้าไม้ถูกด้านข้างของลูกปิงปอง  ลูกเสริฟจะเป็นลูกหมุนด้านข้าง หรือ ลูก Side spin  เมื่อรับลูกเสริฟ ลูกจะออกด้านข้างโต๊ะ (อาจจะด้านซ้ายหรือขวาของโต๊ะ)
-  เมื่อหน้าไม้ลูกตรงกลางระหว่างใต้ลูกปิงปอง กับ ด้านข้างของลูกปิงปอง  เมื่อรับลูกปิงปอง มีโอกาสที่ลูกจะทั้งติดเน็ตและ ออกด้านข้าง
-  เมื่อหน้าไม้ถูกด้านบนของลูกปิงปอง  ลูกจะหมุนแบบพุ่งไปข้างหน้ามาหาเรา  เมื่อรับลูกเสริฟ ลูกปิงปองก็จะพุ่งไปข้างหน้า ซึ่งผู้เสริฟส่วนใหญ่จะใช้ในจังหวะที่เราเผลอ ยืนผิดมุมรับลูกเสริฟ  หรือ ผู้เสริฟอาจจะเสริฟมาให้เราเสียหลัก เมื่อรับกลับไปก็จะถูกฝ่ายเสริฟโจมตีกลับมาในลูกต่อไป
-  เมื่อหน้าไม้มีการผสมความหมุนเกิดขึ้น  ลูกเสริฟลักษณะแบบนี้จะเกิดความหมุนได้หลากหลายความหมุนขึ้นได้  ผู้เสริฟอาจจะมีการสบัดหน้าไม้ หรือ พลิกหน้าไม้หลอกฝ่ายรับลูกเสริฟให้เกิดความสับสนและตัดสินใจรับลูกเสริฟผิดพลาดขึ้นได้  ดังนั้นฝ่ายรับลูกเสริฟจะต้องเพิ่มความสังเกตและมีสมาธิในขณะที่จ้องมองลูกเสริฟให้มากยิ่งขึ้น
ดังนั้น การฝึกรับลูกเสริฟจึงมีความสำคัญมากในการนำไปใช้ในเกมส์การแข่งขันเช่นกัน  วิธีการจะทำให้เราอ่านความหมุนลูกเสริฟให้ออก เราจึงต้องฝึกรับลูกเสริฟ  โดยมีสมาธิ จ้องมองลูกปิงปองในขณะที่ลูกกระทบหน้าไม้  โดยฝึกรับซ้ำแล้วซ้ำอีก  ซึ่งก็ต้องฝึกรับกับนักกีฬาที่มีความชำนาญในการเสริฟโดยเฉพาะ  ซึ่งก็แน่นอนว่า ผู้ฝึกสอนก็จะต้องฝึกนักกีฬาในทีมให้เก่งในการเสริฟให้ได้ทุกๆ คน  เพื่อที่จะได้ฝึกการรับลูกเสริฟให้เก่งได้ทุกๆ คน เช่นเดียวกัน


2.  อ่านทิศทางที่ลูกเสริฟพุ่งมาหาเรา
ซึ่งนักกีฬาก็จะต้องอ่านที่มุมของหน้าไม้คู่ต่อสู้อีกเช่นกันว่ามีมุมของการเสริฟลูกออกจากหน้าไม้มาในทิศทางใด  ซึ่งโดยปกติแล้ว ทิศทางของลูกเสริฟ จะมีทั้งทิศทางตรงเข้ามาหาตัวเรา  และ ทิศทางมาทางด้านซ้าย หรือ ด้านขวา ของเรา  โดยลูกปิงปองจะมีจุดตก 3 ตำแหน่ง คือ 1. ลูกสั้นในโต๊ะ  2. ลูกตกปลายโต๊ะพอดี  และ  3. ลูกพุ่งพ้นนอกโต๊ะออกมา 


3.  วิธีการรับลูกเสริฟ
เมื่ออ่านทั้งความหมุนของลูกเสริฟ และ ทิศทางของลูกเสริฟที่ีมาหาเราได้ออกแล้ว  ต่อไปก็จะเป็นวิธีการรับลูกเสริฟ  ซึ่งมีวิธีการรับตามลักษณะของลูกปิงปองที่ถูกเสริฟออกมาดังต่อไปนี้
3.1  เมื่อลูกเสริฟ ถูกเสริฟพ้นโต๊ะปิงปองออกมา ให้ใช้ลูก TOP SPIN ในการรับลูกเสริฟทันที ไม่ว่าคู่ต่อสู้จะเสริฟมาด้วยความหมุนแบบใด หากลูกเสริฟมาด้านโฟร์แฮนด์ตรงๆ ก็ให้ใช้โฟร์แฮนด์รับลูกเสริฟด้วย TOP SPIN กลับไปทันที  แต่หากลูกเสริฟพุ่งออกนอกโต๊ะ มีทิศทางพุ่งเข้าหาตัวเรา ให้ฉากตัวเล็กน้อยและ ใช้ด้านโฟร์แฮนด์ TOP SPIN กลับไป และหากลูกเสริฟพุ่งออกนอกโต๊ะ มาทางด้านแบ๊คแฮนด์ จะฉากตัวใช้ด้านโฟร์แฮนด์ตีลูก TOP SPIN กลับไป  หรือหากมีการฝึกด้านแบ๊คแฮนด์ TOP SPIN เอาไว้ใช้ในการรับลูกเสริฟไว้เป็นกรณีพิเศษ ก็จะยิ่งทำให้มีอาวุธไว้ใช้ในการรับลูกเสริฟที่พ้นโต๊ะออกมาได้ครบเครื่องมากยิ่งขึ้น
   
3.2  เมื่อลูกเสริฟ ถูกเสริฟมาเป็นลูกสั้น  ให้ตัดสินใจใช้วิธีการรับลูกเสริฟวิธิการใด วิธีการหนึ่ง ดังนี้
1.  รับลูกเสริฟด้วยการเขี่ยลูก กลับไป

 หมายเหตุ  
1.  การฝึกเขียลูกนี้ นอกจากจะนำมาใช้ในการรับลูกเสริฟที่มาสั้นได้แล้ว  เรายังสามารถใช้ลูกเขียในจังหวะอื่นๆ ที่ลูกปิงปองกระดอนสั้นๆ อยู่ในโต๊ะปิงปองก็ได้เช่นกัน
2.  จังหวะในการตีลูก ให้ตีลูกในจังหวะสูงลอยขึ้นสูงสุดและตกลงจากจุดสูงสุดเล็กน้อย


2.  รับลูกเสริฟด้วยการตีลูกตัดใต้ลูก หรือ ตัดข้างลูก กลับไป

 หมายเหตุ  
1.  จังหวะในการตี จะต้องตีลูกในจังหวะที่ลูกปิงปองกำลังลอยขึ้น ก่อนถึงจังหวะสูงสุด
2.  พยายามรับลูกเสริฟให้เป็นลูกสั้นกลับไป เพื่อป้องกันไม่ให้คู่ต่อสู้บุกในลูกต่อไป
3.  หน้าไม้ในขณะสัมผัสลูก ผู้เล่นควรจะฝึกสัมผัสที่บริเวณใต้ลูกตรงๆ และ สัมผัสบริเวณใต้ลูกแต่ด้านข้างๆ ของลูกก็ได้ ซึ่งควรจะฝึกให้ได้ทั้งสองแบบเพื่อความหลากหลายในการรับลูกเสริฟใต้ลูกที่ตีได้หลากหลายยิ่งขึ้น


3.3  เมื่อลูกเสริฟ ถูกเสริฟให้มาตกขอบโต๊ะพอดี   .ลูกเสริฟลักษณะเช่นนี้จะทำให้ยากในการตัดสินใจว่าจะรับลูกเสริฟด้วยวิธีใดดี  จึงต้องอาศัยประสบการณ์ของผู้เล่นในการช่วยตัดสินใจ  เพราะบางลูกหากลูกเสริฟพ้นโต๊ะออกมาเล็กน้อยก็ต้องรับลูกเสริฟด้วยการใช้ลูก Top spin กลับไป  ดังนั้นเมื่อตัดสินใจจะใช้วิธีใดแล้วต้องตัดสินใจให้เด็ดขาด อย่าพะว้าพะวง หรือกลับใจ เปลี่ยนใจ เพราะจะทำให้เรารับลูกเสริฟเสียไปเอง หรือรับกลับไปได้ไม่ดี  ซึ่งฝ่ายรับลูกเสริฟก็จะต้องคอยแก้ปัญหาต่อไป

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น